การแข่งขัน บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เจอกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟร๊องซ์, ฝรั่งเศส (สนามกลาง) เมื่อคืนนี้วันเสาร์ที่ 28 พ.ค. 2565
เริ่มเกมมา 16 นาที ลิเวอร์พูล ได้โอกาสแรกของเกม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนเปิดให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอี้ยวตัวยิงด้วยขวาแต่โดนเบาไป ติโบต์ กูร์กตัวส์ ล้มตัวปัดทิ้งไว้ได้
นาทีที่ 21 “หงส์แดง” แทบได้ประตูนำอีกหน ซาดิโอ มาเน่ ลากหลบแนวรับสองคนก่อนยิงหักข้อด้วยขวาในเขตโทษ ติโบต์ กูร์กตัวส์ โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดไว้ได้ปลายมือก่อนบอลพุ่งไปชนเสา
นาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล ยังเดินเกมบุกต่อเนื่อง อิบราฮิม่า โกนาเต้ พาบอลขึ้นหน้าก่อนไหลออกขวา อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดโด่งเข้าเขตโทษถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โหม่งไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับเข้าซองไว้ได้
นาทีที่ 43 “ราชันชุดขาว” พลาดได้ประตูนำ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ วางบอลยาวให้ คาริม เบนเซม่า หลุดเข้าเขตโทษก่อนเปิดไปติดแนวรับกระดอนมาเข้าทางได้ยิงซ้ำซุกก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วไม่ให้เนื่องจากว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า หมดครึ่งแรกยังเท่ากัน 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังนาทีที่ 59 เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดเรียดไปเสาสองให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ไม่มีตัวประกบวิ่งมาแปด้วยขวาตุงตาข่าย
นาทีที่ 64 “หงส์แดง” ได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลากตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งโค้งจะเสียบเสาสองแต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังไวพุ่งปัดทิ้งเอาไว้ได้มือเดียว
นาทีที่ 80 ลิเวอร์พูล ยังขึงเกมบุกกดดันเพื่อหวังทวงประตูคืน และเกือบได้อีกจากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงด้วยซ้ายบอลไถล ดีโอโก้ โชต้า แปลงทางจะเสียบเสาแต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ พุ่งปัดได้อีก
นาทีที่ 83 “หงส์แดง” คงจะได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆโมฮาเหม็ด ซาลาห์ โชว์สปีดลากบอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนกดด้วยซ้ายเน้นย้ำ ๆ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก็ยังโชว์หนึบพุ่งปัดออกข้างหลังไปได้อีก
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยที่ 14 ในประวัติศาสตร์ ตอนที่ “หงส์แดง” จำเป็นต้องผิดหวังในเกมรอบชิงฯ เป็นครั้งที่ 4
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันทาร่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน่
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – โทนี่ โครส, กาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช – เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
ผู้ตัดสิน : กเลม็องต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส)