Wednesday, 22 March 2023

อินโดผ่านกฎหมาย ห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส

รัฐสภาอินโดนีเซียอนุมัติกฎหมายอาญาฉบับใหม่ที่กำหนดให้การร่วมเพศนอกสมรสมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นข้อบังคับที่ริดรอนสิทธิของประชาชน อินโดห้ามมีเซ็กส์ก่อนแต่ง

ข้อบังคับดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะบังคับใช้อีกทั้งกับชาวอินโดนีเซีย รวมทั้ง ชาวต่างชาติ รวมถึงข้อบังคับคุณธรรมอีกหลายฉบับที่จะทำให้คู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานที่อยู่ด้วยกัน รวมทั้ง ร่วมเพศกันถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย

คู่ควง หรือ บิดามารดาสามารถแจ้งความในความผิดพลาดฐานร่วมเพศนอกสมรสได้ รวมทั้ง การทำความผิดในการล่วงประเวณีดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะทำให้ผู้ทำบางทีอาจได้รับโทษจำคุก

กลุ่มสิทธิมนุษยชนบอกว่า ข้อบังคับดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นส่งผลเสียต่อสิทธิสตรี กลุ่ม LGBT รวมทั้ง ชนกลุ่มน้อยในประเทศ ทำให้มีผู้คนกลุ่มเล็กๆออกมารวมตัวกันประท้วงหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงจาการ์ตา

ประมวลกฎหมายใหม่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะยังไม่เป็นผลบังคับใช้ไปจนกระทั่งในอีก 3 ปีด้านหน้า โดยข้อบังคับที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้ยังรวมถึงข้อบังคับที่ห้ามการดูหมิ่นประธานาธิบดี รวมทั้ง การพูดต้านอุดมการณ์ของรัฐ

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ข้อบังคับใหม่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังมีการหยุดสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง รวมทั้ง จำกัดเสรีภาพทางศาสนา

ด้านสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซียกล่าวว่า พวกเขาได้เพิ่มการปกป้องคุ้มครองเสรีภาพในการพูดรวมทั้งการประท้วงที่เกิดขึ้นเพื่อผลดีสาธารณะ

องค์กรฮิวแมนไรท์วอช บอกว่า บทบัญญัติของประมวลกฎหมายใหม่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นของอินโดนีเซียถือเป็นหายนะด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งถือเป็นความแพ้พ่ายครั้งใหญ่ของประเทศที่เพียรพยายามจะแสดงตนว่าเป็นชาวมุสลิมสมัยใหม่ที่เป็นระบบประชาธิปไตย

อินโดนีเซีย

อินโดห้ามมีเซ็กส์ก่อนแต่ง ใครละเมิดต้องติดคุก

ผู้ที่ละเมิดกฎหมายใหม่นี้แบ่งเป็นผู้ที่มี ความสัมพันธ์ทางเพศก่อนแต่งงาน จะต้อง โดนจับกุม รวมทั้ง ต้องโทษจำคุกซึ่งมีระบุสูงสุดคือ 1 ปี สำหรับคู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยไม่ได้เข้าพิธีสมรส หรือ มีสถานะเป็น คู่สมรสตามกฎหมาย จะต้องได้รับโทษจำคุกเช่นเดียวกัน แต่ว่ามีกำหนดโทษสูงสุดอยู่ที่ 6 เดือน

ตามข้อกำหนดของ ข้อบังคับใหม่ พ่อแม่ หรือ ผู้ปกครองของคนไม่มีคนรักที่ร่วมเพศกับบุคคลอื่น จะต้องแจ้งความต่อตำรวจถึงความประพฤติปฏิบัติของลูกของตนเอง แต่ว่าในกรณีของบุคคลที่แต่งงานแล้ว เกิดมีชู้ หรือ นอกใจ ผู้ที่จะร้องทุกข์ได้คือคู่สมรสแค่นั้น

ตามรายงานข่าว ได้มีความบากบั่นที่จะผ่านร่างกฎหมายนี้มานานกว่าทศวรรษแล้ว แต่เดิมคาดว่า ร่างแรกของข้อบังคับดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะผ่านความเห็นรัฐสภาในปี 2562 แต่ว่าก็เจอกระแสต่อต้านจากประชาชนจำนวนมากในหลายเมืองใหญ่เสียก่อน

เนื้อหาของการปรับแก้กฎหมาย

หัวข้อการปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ที่เป็นข้อโต้เถียงรุนแรง คือ การกำหนดให้การร่วมเพศก่อนสมรส รวมทั้ง การร่วมเพศนอกสมรส รวมถึงการอาศัยอยู่ร่วมกันของคู่รักที่ยังไม่สมรส นับว่าผิดกฎหมายอาญา

ประมวลกฎหมายใหม่ยังมีผลบังคับใช้กับชาวต่างชาติที่พำนักพักพิงอยู่ในอินโดนีเซีย รวมถึงนักเดินทางด้วย

นอกนั้น มาตราที่ถูกปรับแก้ ยังรวมถึง การบัญญัติกฎหมายห้ามการเปลี่ยนศาสนา รวมทั้ง ข้อบัญญัติโทษกรณีการพูดดูหมิ่นประธานาธิบดี หรือ แสดงความเห็นที่ตรงข้ามอุดมคติของประเทศชาติ

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการเพิ่มข้อบัญญัติโทษ กรณีดูหมิ่นศาสนา เป็นอันตรายจำคุก 5 ปีอีกด้วย

อย่างไรก็แล้วแต่ คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงข้อบังคับรวมทั้งสิทธิมนุษยชน ชี้ว่า การปรับแก้ข้อบังคับคราวนี้ จะช่วยป้องกันสถาบันครอบครัว รวมทั้ง ความศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงาน

ไม่เพียงแค่นั้น ข้อกำหนดกฎหมายจะมีผลก็ต่อเมื่อ คู่ควง บิดามารดา หรือ ลูกๆเป็นผู้แจ้งความถึงการกระทำผิด อีกทั้ง ร่วมเพศก่อนสมรส รวมทั้ง นอกสมรส

ประท้วงกฏหมาย

ห้ามมีเซ็กซ์นอกสมรส-อยู่ก่อนแต่ง นักท่องเที่ยวก็โดน

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย กล่าวว่า รัฐสภาของประเทศ อินโดนีเซีย เห็นชอบข้อบังคับอาชญากรรมใหม่ในวันอังคารที่ 6 ธ.ค. 2565 ห้ามมีผู้ใดก็ตามร่วมเพศนอกการแต่งงาน มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี ท่ามกลางความหนักใจว่า ข้อบังคับนี้จะทำให้นักเดินทางกลัวจนถึงไม่กล้าเดินทางมา รวมทั้ง บางทีอาจทำให้เกิดโทษ และ ส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อการลงทุน

ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียมีข้อบังคับห้ามร่วมเพศกับผู้ที่ไม่ใช่คู่สมรสของตนเองอยู่แล้ว แต่ว่าไม่เคยห้ามการร่วมเพศระหว่างคนที่ยังไม่แต่งงาน โดยข้อบังคับใหม่จะมีผลต่ออีกทั้งชาวอินโดนีเซีย, ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ หรือ เดินทางเข้ามาในอินโดนีเซีย รวมทั้ง ยังห้ามการอยู่ก่อนแต่งงานระหว่างคู่รักด้วยถ้าหากฝืนจะต้องต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน แต่ว่าข้อบังคับฉบับนี้จะยังไม่เป็นผลตรงเวลา 3 ปี เพื่อร่างแนวทางการบังคับใช้กฎ

อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเผชิญเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ อาทิเช่นนายเมาลานา ยูสราน รองประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านการท่องเที่ยวที่อินโดนีเซีย กล่าวว่า ข้อบังคับใหม่นี้เป็นการถ่วงความเจริญอย่างสิ้นเชิง ในเวลาที่เศรษฐกิจ รวมทั้ง การท่องเที่ยวกำลังเริ่มฝื้นตัวกลับมาจากการระบาดของโควิด-19

“เราเสียใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลปิดตาตัวเอง เราแสดงความกังวลต่อกระทรวงการท่องเที่ยวถึงความอันตรายของกฎหมายนี้ไปแล้ว” นายยูสรานกล่าว

โดยสมาคมการท่องเที่ยวเกาะบาหลีเคยคาดการณ์ไว้ว่า นักท่องเที่ยวจะกลับมาอยู่ระดับก่อนโควิดระบาดที่ 6 ล้านคนภายในปี 2568 ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียยังพยายามดึงดูดกลุ่มคนที่ทำงานผ่านทางออนไลน์ หรือ  digital nomad ให้มาเที่ยวในประเทศดด้วยการผ่านคลายกฎวีซ่าด้วย

ด้านนายอัลเบิร์ต แอรีส โฆษกกระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายใหม่จะถูกจำกัดโดยผู้ที่สามารถแจ้งความได้ เช่น พ่อแม่, คู่สมรส หรือ ลูกของผู้ต้องสงสัยกระทำผิด

“จุดประสงค์ของกฎหมายนี้คือการปกป้องสถาบันการแต่งงาน และ ค่านิยมของอินโดนีเซีย ในเดียวกันก็ปกป้องความเป็นส่วนตัวของชุมชน และ ปฏิเสธสิทธิ์ของสังคม หรือ บุคคลที่ 3 ไม่ให้แจ้งความเรื่องนี้ หรือ  ‘ทำตัวเป็นผู้พิพากษา’ โดยอ้างศีลธรรม” นายแอรีสกล่าว