สุดสลด เด็กวัย 14 ปี ถูกรถทับเสียชีวิต หลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศส ชนะ โมร็อกโก
วันที่ 15 ธันวาคม 2565 บีบีซี สำนักข่าวชั้นนำรายงานว่า ชายหนุ่มวัย 14 ปีรายหนึ่ง ถูกรถชนและโดนทับร่างก่อนเสียชีวิตที่มงต์เปลลิเยร์ เมืองทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ในช่วงเพียงแค่ไม่นานหลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คู่ที่ 2 ซึ่ง ทีมชาติฝรั่งเศส เอาชนะ ทีมชาติโมร็อกโก 2-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ธ.ค. 2565)
เหตุการณ์นี้มีคลิปปรากฏบนโลกโซเชียล ซึ่งมีรถยนต์คันหนึ่งที่ผูกผ้า 3 สี เป็นสีน้ำเงิน ขาว แดง ตามสีธงชาติฝรั่งเศส ถูกห้อมล้อมโดยคนกลุ่มหนึ่งที่ถือธงชาติผืนใหญ่ ทำให้คนขับรถคันนี้เกิดอาการตกใจ ก่อนเหยียบคันเร่งฝ่าวงล้อมออกไป และได้พุ่งเข้าชนวัยรุ่น 2 คนเข้าอย่างจัง ซึ่งก็มี 1 รายที่ถูกรถทับร่าง ก่อนที่จะสูญเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาถัดมา
ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มการไล่ล่าหาตัวคนขับมารับโทษแล้ว หลังจากพบรถยนต์คันดังกล่าวถูกจอดทิ้งเอาไว้ภายในรอบๆไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ซึ่ง มิคาเอล เดอลาฟอสส์ นายกเทศมนตรีมงต์เปลลิเยร์ และ ปาทริก วิญาล ผู้แทนราษฎรเขตแดน กล่าวว่าทุกคนรู้สึกตกใจกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และหวังว่าจะจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษขั้นเด็ดขาดตามขั้นตอนการยุติธรรมได้
ดังนี้ ประเทศฝรั่งเศส มีชาวโมร็อกโกอาศัยอยู่ประมาณ 1.5 ล้านคน และจากการที่ทั้ง 2 ชาติโคจรมาพบกันในฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ที่กาตาร์ ก็เป็นเหตุให้มีการปะทะกันระหว่างแฟนบอล 2 ฝั่ง โดยมีรายงานว่าตำรวจจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มแฟนบอลที่ก่อเหตุทะเลาะตามเมืองต่างๆดังเช่น กรุงปารีส, เมืองลียง และมีรายงานการจับกุมผู้ก่อเหตุทั่วราชอาณาจักรถึง 167 คดี
สำหรับ ฝรั่งเศส จะตัดสินแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 กับ อาร์เจนตินา ในรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 18 เดือนธันวาคมนี้ ส่วน โมร็อกโก จะชิงอันดับ 3 กับ โครเอเชีย วันเสาร์ที่ 17 ธ.ค. ชิงชัย 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทั้ง 2 คู่
แฟนบอลฝรั่งเศส-โมร็อกโกปะทะเดือดหลังเกมบอลโลก เด็กวัย 14 ถูกรถทับเสียชีวิต
สื่อต่างชาติกล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. เกิดเหตุแฟนบอลฝรั่งเศสและโมร็อกโกปะทะกันหลายจุดในประเทศฝรั่งเศส ภายหลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ซึ่งฝรั่งเศส แชมป์เก่า เอาชนะโมร็อกโก 2-0 ที่ประเทศกาตาร์ และมีเด็กชายวัย 14 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตที่เมืองมงต์เปลลิเย่ร์
ภายหลังจบเกม แฟนบอลชาวฝรั่งเศสต่างหลั่งไหลลงไปสังสรรค์ชัยชนะบนท้องถนนทั่วประเทศ สร้างความรู้สึกว่าไม่ถูกใจให้แฟนบอลโมร็อกโกบางคนที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส ทำให้เกิดเหตุปะทะกันขึ้้นในหลายพื้นที่ โดย โมร็อกโก เคยอยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศสและปัจจุบันมีชาวโมร็อกโกอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสราว 1 ล้านคน
บางพื้นที่เหตุการณ์ร้ายแรง มีการจุดพลุไฟขว้างปาใส่กัน และจุดไฟทำลายข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองมงต์เปลลิเย่ร์ จนเจ้ากี้เจ้าการที่ตำรวจปราบจลาจลจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาควบคุมสถานการณ์
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงว่า เด็กผู้ชายวัย 14 ปีรายหนึ่งโดนรถชนอย่างหนัก เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เขาเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และกำลังเร่งทำการสอบปากคำต่อไป
ขณะที่ชาวเน็ตพากันแชร์คลิปทางโซเชียลเน็ตเวิร์คขณะฝูงคนเข้าไปรุมล้อมรถคันหนึ่งที่คลุมธงชาติฝรั่งเศส จากนั้นฝูงคนก็ดึงธงออกมา ทำให้คนขับเกิดอาการตื่นตระหนก ขับขี่รถพุ่งใส่วัยรุ่น 2 คน ก่อนเลี้ยวรถยนต์แล้วเร่งเครื่องออกไป ซึ่งจังหวะนั้นรถไปชนเด็กผู้ชายวัย 14 ปีอย่างแรง
แฟนบอลปะทะเดือดหลังฝรั่งเศสชนะโมร็อกโก เด็ก 14 ถูกรถชนดับ
แฟนบอลก่อความวุ่นวาย-ปะทะเดือดในหลายจุดทั่วฝรั่งเศส หลังเกมการแข่งขันฟุตบอลโลก ระหว่างฝรั่งเศสกับโมร็อกโก พื้นฐาน เจอเด็ก 14 ปี เสียชีวิต 1 คน
บรรยากาศในฝรั่งเศส โดยเฉพาะที่ถนนช็องเซลีเซ ในกรุงปารีส เต็มไปด้วยภาพของแฟนบอลที่พากันออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนน หลังทีมชาติฝรั่งเศสเอาชนะโมร็อกโกไปได้ 2-0 ประตู เข้ารอบชิงแชมป์ได้สำเร็จ เมื่อคืนที่ผ่านมา
ที่เมืองมงต์เปอลีเย (Montpellier) ทางตอนใต้ของประเทศ แฟนบอลโมร็อกโกที่ไม่ชอบใจผลการแข่งขัน ออกมาทำให้เกิดความโกลาหล ทำลายของสาธารณะ เล็กน้อย ปะทะ กับแฟนบอลฝรั่งเศสที่ออกมาเฉลิมฉลองชัยชนะ จนถึงสถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม มีการเขวี้ยงเครื่องใช้ใส่กัน
นอกเหนือจากนั้น ยังมีเหตุสลดเกิดขึ้น หลังรถยนต์คันหนึ่งพุ่งเข้าชนกลุ่มแฟนบอลโมร็อกโก ที่พยายามล้อมรถเพื่อขโมยธงชาติฝรั่งเศสที่ติดอยู่กับกระจกรถ ส่งผลให้เด็กชายวัย 14 ปี ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวถูกรถยนต์ทับเสียชีวิต ซึ่งเดี๋ยวนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ
ที่เมืองนีซ แฟนบอลที่ออกมาเฉลิมฉลองความมีชัย พากันขว้างดอกไม้ไฟใส่ตำรวจปราบจลาจลที่พยายามเข้าแถวสกัด
สำหรับโมร็อกโกเคยเป็นประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส จึงมีผู้หนีภัยและชุมชนชาวโมร็อกโกอาศัยกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในฝรั่งเศส และหลายท่านถือ 2 สัญชาติ
เว้นแต่ที่ฝรั่งเศสแล้ว ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ยังมีแฟนบอลโมร็อกโกราว 100 คน ที่ไม่ชอบใจผลการแข่งขัน ออกมาก่อไฟเผาสิ่งของตามท้องถนน จนตำรวจจะต้องยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงกดดันสูงเข้าควบคุมเหตุการณ์ และจับกุมผู้ก่อความโกลาหลไปจำนวนหนึ่ง